วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Oh, oh, oh
Oh, oh, oh

You were in college, working part-time, waiting tables
ตอนนั้นเธอเรียนวิทยาลัย ทำงานพิเศษ เป็นเด็กเสิร์ฟ
Left a small town and never looked back
และจากเมืองเล็กๆ นั่นมาโดยที่ไม่คิดจะย้อนกลับไปอีก
I was a flight risk, afraid of fallin'
ส่วนฉันเคยเป็นหญิงสาวที่ตัดตัวเองออกจากความสัมพันธ์ หวาดกลัวกับการตกหลุมรัก
Wondering why we bother with love, if it never lasts
และสงสัยว่าทำไมคนเราจึงวุ่นวายกับการมีรัก ในเมื่อมันมักจะไม่คงอยู่ตลอดไป

I say, "Can you believe it?"  อ่านเพิ่มเติม...

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Tense
Tense   คือรูปแบบ(หรือโครงสร้าง)ของกริยา  ที่แสดงให้เราทราบว่า  การกระทำหรือเหตุการ นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใด   ซึ่งเรื่อง  tense  นี้เป็นเรื่องสำคัญ  ถ้าเราใช้    tense  ไม่ถูก  เราก็จะสื่อภาษากับเขา ไม่ได้  เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ  tense  เสมอ  ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าาเกิดขึ้นเมื่อใดมาช่วยเสมอ   แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป  tense  นี้มาเป็นตัวบอก  ดังนี้การศึกษาเรื่อง  tense  จึงเป็นเรื่องจำ เป็น.
Tense  ในภาษาอังกฤษนี้จะแบ่ง ออกเป็น  3  tense  ใหญ่ๆคือ
               1.     Present   tense        ปัจจุบัน
               2.     Past   tense              อดีตกาล
               3.     Future   tense          อนาคตกาล
ในแต่ละ  tense ยังแยกย่อยได้  tense  ละ  4  คือ
              1 .   Simple   tense    ธรรมดา(ง่ายๆตรงๆไม่ซับซ้อน).
              2.    Continuous  tense    กำลังกระทำอยู่(กำลังเกิดอยู่)
              3.     Perfect  tense     สมบูรณ์(ทำเรียบร้อยแล้ว).
              4.     Perfect  continuous  tense  สมบูรณ์กำลังกระทำ(ทำเรียบร้อยแล้วและกำลัง ดำเนินอยู่ด้วย).

อ่านเพิ่มเติม

If Clause เงื่อนไข๊เงื่อนไข


If Clause (Conditional Sentence)หรือ ประโยคเงื่อนไขนั้น มี 0 1 2 3 แบบ แล้วทำไมต้องเริ่มจาก 0 หล่ะ
บางคนบอกว่า ที่หนูเคยเรียนมันเป็นแบบ 1 2 3 4
ใช่แล้วค่ะ แต่ Grammarman ไม่อยากเหมือนใคร แค่อยากเริ่มจาก 0 อาโฮะๆ
เข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะท่านผู้อ่านที่น่ารัก
เหตุผลที่เริ่มต้นนับจาก 0 เพราะเราจะมาแยกประเภทกันค่ะ
แบบที่ 0 เป็นความจริง
....................................................................................................
แบบที่ 1 เป็นไปได้ (ปัจจุบัน)
แบบที่ 2 เป็นไปไม่ได้ (ปัจจุบัน)
แบบที่ 3 เกิดขึ้นแล้วในอดีต กลับไปแก้ไขไม่ได้ แล้วมาเสียใจภายหลัง
เห็นไหมคะ แบบที่ 0 โดนแยกออกจากเพื่อน เพราะมันไม่เหมือนชาวบ้าน เพราะมันเป็นความจริง
เห็นไหมคะ Grammarman ก็มีเหตุผล มีหลักการเหมือนกันนะเนี่ย ฮ่าๆๆ
แค่รู้ว่ามีกี่แบบยังไม่เพียงพอค่ะ เราจำเป็นต้องรู้โครงสร้างด้วย
ง่ายนิดๆ แบบจิ๊บๆ
0:    If   S   V1 , S   V1.
.....................................................................................................
1:    If   S   V1 , S  will/shall  V.infi
2:    If   S   V2 , S  would/should  V.infi
3:    If   S   had  V3 ,  S  would/should   have  V3
ดูแล้วรู้สึกจะเริ่มเหมือนสูตรคณิตศาสตร์ - -''
ในประโยคเงื่อนไง มักมีคำว่า ถ้า = if เสมอนะคะ
S = ประธาน
V1 = กริยาช่อง 1    V2 = กริยาช่อง 2   V3 = กริยาช่อง 3
Vinfi = Verb Infinitive  กริยาช่อง 1 แบบไม่ผัน ไม่เติม s ไม่เติม ed ค๊าฟ (เรียกยากๆมันคือ Base Form of Verb)
เมื่อรู้สูตรแล้ว ก็ต้องจับสูตรมาประยุกต์ให้เหมือนคณิตศาสตร์กันหน่อย ดูซิว่า คณิตกับอังกฤษ สิ่งไหนจะยากกว่ากัน อาโฮะๆ
อ่านเพิ่มเติม